เป็นหน่วยงานในพื้นที่ระดับอำเภอ ด้วยภารกิจและเป้าหมายในการส่งเสริมและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมให้เกิดชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนพึ่งตนเองได้ ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตดี มีความสุข
วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเทพสถิต ร่วมกิจกรรมทำบุญวันพระ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน เเละมีพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับหมู่บ้านที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นระดับอำเภอ จากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเทพสถิต โดยได้รับเกียรติจากท่านนายอำเภอ ศรีชัย ตัณฑโสภณ ให้เกียรติเป็นผู้มาอบ มีผู้นำที่มีผลงานดีเด่นด้าน หมู่บ้านเศราษฐกิจกพอเพียง ผู้นำด้านกลุ่มออมทรัพย์ ผู้นำด้านการบริหารกองทุนหมู่บ้าน ผู้นำ อช.ดีเด่น เข้าร่วมรับมอบ หอประชุมอำเภอเทพสถิต
วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ D ( หลวงวิจารณ์เจียรนัย "เฮง" )
รายละเอียดพระสมเด็จ
พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่องค์นี้ เป็นพระที่สวยงามมากทั้งพิมพ์และเนื้อหามวลสาร การดูด้วยตาเปลาจะดูสวยเรียบชวนน่าสงสัยแต่ก็สวยเรียบแบบไม่น่าจะมีอะไรมากกว่านี้ถ้าดูด้วยตาเปล่า ส่วนหลังปาดบางๆ เรียบๆ ยิ่งมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากสีน้ำตาลออกเขียว แต่ถ้าดูด้วยโปรแกรมขยายภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว เนื้อพระจะดูสวยงามมากๆ จะเห็นก้อนขาวใสแวววาวของพระบรมสารีริกธาตุหยดน้ำค้างวรรณะขาวใสขุ่น พระบรมสารีริกธาตุหยดน้ำค้างวรรณะม่วงเห็นตรงข้างพระพักตร์ด้านบนและตรงซุ้มด้านบนหลายสิบเม็ด และยังมีเม็ดสีเขียวกลมๆ กระจุกอยู่ในจุดเดียวกันกับเม็ดสีดำด้วยอีกหลายสิบเม็ด สีสันต่างๆ ถ้าทำภาพขยายเบลอจะเหมือนทุ่งดอกไม้หลายหลากสี สลับสีขาวใสขุ่นแวววาววิเศษสุดอย่างไม่น่าเชื่อ รอยปูดเนื้องอกคล้ายๆ ไข่มุกสีสันแปลกๆ ตามจุดต่างๆ พื้นผิวงอก ยุบย่นคล้ายแพรกำมะหยี่รายละเอียดรูปแบบพิมพ์ทรงและเนื้อหามวลสารที่พระสมเด็จฯ องค์นี้ พอจะบอกกล่าว แบ่งเป็น ๒ ลักษณะ ให้เห็นภาพเข้าใจง่ายๆ ดังนี้
ลักษณะรูปแบบพิมพ์ทรง
๑. เส้นกรอบแม่พิมพ์ หรือที่เรียกกันว่าเส้นวาสนา หรือเส้นเงินล้าน เส้นขนาดเล็กจิ๋วทางซ้ายพระขวามือเราจากขอบเส้นบนลงมาจรดเส้นซุ้มพระทางด้านซ้ายตรงบริเวณกลางๆ แขนซ้ายพระค่อนมาทางข้อศอก และอีกเส้นอยู่ทางขวาพระ ซ้ายมือเรา จากขอบเส้นบนลงมาจรดเส้นซุ้มพระตรงบริเวณฐานพระชั้นล่างสุด แถมยังมีกรอบด้านบนให้เห็นชัดเจนอีกด้วย
๒. ซอกรักแร้พระ ซอกรักแร้พระขวามือเราสูงลึกกว่าซอกรักแร้ข้างขวาพระซ้ายมือเรา และที่ซอกรักแร้ขวามีขยักหรือรอยเข็มขีด
๓. หูพระ พระองค์นี้จะมีรอยหูซ้ายขวาติดลาง ๆ ทั้งสองข้าง
๔. รอยยุบตัวฐานชั้นล่างสุด ตรงกลางฐานชั้นล่างสุดจะมีรอยยุบตัวลงไปเป็นร่อง ขอบฐานบนและล่างจะเป็นสันนูนเป็นขอบปื้นสูงกว่าตรงกลาง ฐานชั้นล่างก็จะใหญ่ทึบตัน ดูข้างซ้ายจะใหญ่กว่า มีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู มีปลายงุ้มจิก ส่วนฐานล่างทางขวาพระจะเป็นสี่เหลี่ยมปลายแหลม มีเส้นแหลมที่มุมฐานล่างเป็นทิวไปชนมุมซุ้มครอบแก้ว
๕. ขาฐานสิงห์ยาวข้างสั้นข้าง คือ ที่ฐานชั้นกลางที่เรียกว่าฐานสิงห์ฐาน ข้างซ้ายพระขวามือเรา จะเห็นชัดและยาวกว่าข้างขวาพระซ้ายมือเรา ฐานสิงห์หมายถึงฐานชั้นกลางจะเชิดขึ้นในด้านขวาดูรับกับฐานแรกที่เชิดขึ้นคล้ายหัวเรือ
๖. ดูที่ซอกเหนือชั้นพระ ซอกพื้นเหนือชั้นที่ ๑ และที่ ๓ จะสูงกว่าซอกพื้นเหนือชั้นที่ ๒ และพื้นชั้นที่ ๒ จะเท่ากับพื้นพระภายในซุ้ม
๗. พื้นพระนอกซุ้มสูงกว่าพื้นพระในซุ้ม พระสมเด็จฯ องค์นี้ พื้นพระนอกบริเวณซุ้มพระจะสูงกว่าพื้นพระในบริเวณซุ้มพระอย่างเห็นได้ชัด
๘. ระนาบพื้นจากข้างนอกมาซุ้มจะเอียงราบจากพื้นระนาบนอกซุ้มพระมาขึ้นซุ้มพระจะเป็นระนาบเอียงราบขึ้นมา๙. ระนาบพื้นจากพื้นพระด้านในซุ้มจะตั้งชันขึ้นซุ้มกับเส้นซุ้มพระ
๑๐. เส้นชายจีวรจะหนา จากข้อศอกซ้ายพระขวามือเราจะมีรอยเส้นชายจีวรเป็นเส้นพาดมาหัวเข่าซ้าย
๑๑. มีรอยหยักปลายเท้าใต้เข่า ขวา ที่ใต้เข่าขวาพระซ้ายมือเราจะมีรอยหยักโผล่ออกมา
๑๒. ซุ้มพระด้านบนขวาจะใหญ่กว่าด้านบนซ้ายพระ เส้นขอบซุ้มพระทางด้านขวาพระซ้ายมือเราจะใหญ่กว่าทางซ้ายพระขวามือเรา เส้นซุ้มจะใหญ่เป็นแบบหวายผ่าซีกคว่ำบิดตัวม้วนเข้าด้านใน
๑๓. พื้นที่นอกซุ้มไม่เท่ากัน พื้นที่นอกซุ้มด้านบนขวาพระจะมากกว่าพื้นที่นอกซุ้มด้านบนซ้ายพระขวามือเรา
๑๔. การวางแขนองค์พระ แขนด้านซ้ายพระขวามือเราจะทิ้งดิ่งตรงแล้วหักศอกส่วนแขนพระด้านขวาพระซ้ายมือเราจะตีโค้งออกแล้วหักศอกหันมือเข้าหากัน
๑๕. พระพักตร์ รูปพระพักตร์คล้ายผลมะตูมป้อม และหันพระพักตร์ไปทางซ้าย
๑๖. หัวเข่าขวาพระจะจม ส่วนหัวเข่าทางซ้ายจะนูนกว่า พระบาทซ้ายนูน
๑๗. เมื่อนำกระดาษมาทาบจากปลายเกศถึงฐานล่างด้านซ้ายพระ จะสัมผัสกันเป็นเส้นตรงตั้งแต่ปลายเกศมาชนหัวเข่าและยาวมาถึงฐาน ต่างกับด้านขวาพระ หากทาบลงในลักษณะเดียวกันจะไม่เป็นเส้นตรง เนื้อกระดาษจะเกยพื้นที่หัวเข่าด้านซ้าย หากทาบจากปลายเกศมาถึงปลายเข่าก็จะเลยฐานออกไป
๑๘. เส้นซุ้มครอบระฆัง ตามปกติพระสมเด็จวัดระฆังจะมีเส้นโค้งของครอบแก้วด้านซ้ายจากหัวไหล่ถึงหูจะเป็นเส้นตรง แต่พระสมเด็จองค์นี้เส้นซุ้มตรงหัวไหล่ถึงหู จะเป็นเส้นตรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (เส้นซุ้มสมเด็จฯองค์เสี่ยหน่ำก็มีลักษณะแบบนี้ซึ่งก็ดูสวยงามมาก )
๑๙. เส้นเว้าโค้งของขอบด้านในครอบแก้วด้านบนขวาองค์พระ เนื้อปูนจะยุบลงไปตามธรรมชาติของซุ้มครอบด้านใน เป็นการหดตัวตามธรรมชาติ ถ้าใช้กล้องส่องดูเส้นขอบจะยุบเว้าลงไปเหมือนพรมกำมะหยี่นุ่มๆ
๒๐. ขนาดหน้าอกทั้งสองข้างจะไม่เท่ากัน จากรักแร้ขวาพระถึงหัวไหล่ขวาพระจะมีเนื้อหนากว่าด้านหน้าอกซ้ายพระ
๒๑. ผ้าอาสนะรองนั่ง พระสมเด็จฯ องค์นี้จะเห็นมีติดทางด้านใต้เข่าขวาขององค์พระ แต่ไม่ติดเส้นพลิ้วคมบาง
๒๒. หัวไหล่พระข้างขวาจะโค้งมนหนา หัวไหล่ทางด้านข้างซ้ายจะบางกว่า
เนื้อหามวลสาร
ธรรมชาติของเนื้อพระสมเด็จฯ วัดระฆังองค์นี้ มองทางกายภาพจากภาพขยายของคอมพิวเตอร์ในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังเท่าที่ได้เห็นในพระสมเด็จฯ องค์นี้ มวลสารที่มองเห็นประกอบด้วยมวลสารดังต่อไปนี้
1. เม็ดสีขาวขุ่นใส มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ขนาดเล็กตั้งแต่ปลายเข็มหมุดขนานใหญ่เท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พบเห็นมีปรากฏอยู่ทั่วไปในเนื้อพระ ( สันนิษฐานว่าคือพระบรมสารีริกธาตุวรรณะใส , เปลือกหอย ) ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก
2. จุดสีแดงหรือสีแดงอิฐ ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ พบอยู่ทั่วไป ตรงบริเวณรายแยกของหลังพระด้านซ้ายและไล่ลงมาจะพบประปราย ไม่เยอะเหมือนเม็ดสีขาวขุ่นใส
1. เม็ดสีขาวขุ่นใส มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ขนาดเล็กตั้งแต่ปลายเข็มหมุดขนานใหญ่เท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พบเห็นมีปรากฏอยู่ทั่วไปในเนื้อพระ ( สันนิษฐานว่าคือพระบรมสารีริกธาตุวรรณะใส , เปลือกหอย ) ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก
2. จุดสีแดงหรือสีแดงอิฐ ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ พบอยู่ทั่วไป ตรงบริเวณรายแยกของหลังพระด้านซ้ายและไล่ลงมาจะพบประปราย ไม่เยอะเหมือนเม็ดสีขาวขุ่นใส
3. จุดสีดำ มีขนาดเล็ก พบทั่วไป แต่จะเห็นชัดตรงซุ้มคลอบแก้วด้านบนอยู่กระจุกค่อนข้างเยอะ และลักษณะยาว (ขนาดยาวเห็นชิ้นหนึ่งอยู่สันขอบด้านใต้องค์พระถ้าตั้งองค์พระขึ้น)
4. จุดสีสันแปลกๆ เช่น สีแดง สีฟ้า สีเหลือง สีเขียว สีเทา สีน้ำตาล สีชมพู ฯลฯ (สันนิษฐานว่าเป็นเกสรดอกไม้ต่างๆ) ด้านหน้าจะเห็นชัดตรงที่เป็นส่วนที่นูน เช่น องค์พระ ซุ้ม ฐาน ฯลฯ ส่วนด้านหลังองค์พระเยอะมาก ซึ่งถ้าขยายภาพให้เบลอๆ เหมือนสวนดอกไม้ที่สีสันสวยงานหลากหลายสีสันสวยงามมาก ผสานกับสีวาวใสขุ่นยิ่งเหมือนกับแสงดาวอันสวยงาม
5. จุดก้อนสีดำประกายม่วง เป็นก้อนกลมๆ วาว เห็นหลายสิบเม็ดบริเวณพระพักตร์และบริเวณซุ้มด้านบนพระ(สันนิษฐานว่า คือพระบรมสารีริกธาตุวรรณะม่วง)
6. จุดสีเขียวคล้ายสีคราม มีลักษณะกลมใหญ่เล็กแล้วแต่จะพบในองค์พระพบบริเวณเดียวกับจุดก้อนดำประกายม่วง
6. จุดสีเขียวคล้ายสีคราม มีลักษณะกลมใหญ่เล็กแล้วแต่จะพบในองค์พระพบบริเวณเดียวกับจุดก้อนดำประกายม่วง
7. จุดสีน้ำตาลอ่อน และ น้ำตาลแก่ สันนิษฐานว่า คือเกสรดอกไม้แห้งนานาชนิด อาจเป็นดอกไม้108
8. เม็ดขาวขุ่นหรือพระธาตุ พบอยู่ทางพระพักตร์ด้านขวาพระเกือบกับติดขอบซุ้มด้านขวาองค์พระ และอีกเม็ดที่รอยตัดด้านข้างขวาขององค์พระตรงรอยตัดขรุขระ
9. ผงวิเศษที่พบเป็นก้อน คล้ายกับก้อนดินสอพองก็คือ พบอยู่ทั่วไปทั้งด้านหน้าและด้านหลังองค์พระ
10. การยุบตัวของเนื้อพระสมเด็จ เกิดจากปฏิกิริยาการหดตัว แห้งตัว ยุบตัวของ เศษอาหาร จึงทำให้เนื้อพระยุบตัวลง ระยะเวลาและความร้อนของอากาศหลายๆปี ฤดูกาลธรรมชาติตรงที่เป็นแอ่งดำซูมดูมองเห็นสีชมพูล้อมรอบปากหลุมสวยมาก
11. พระองค์นี้ เนื้อจะดูเก่าแต่หนึบไม่แตกร้าวมาก คงเป็นเพราะตัวประสานน้ำมันตั้งอิ้วๆผสมได้พอเหมาะ ที่ตรงด้นข้างที่มีรอยตัดขรุขระจะเห็นน้ำมันตั้งอิ้ว แห้งๆ ออกน้ำตาลแก่
10. การยุบตัวของเนื้อพระสมเด็จ เกิดจากปฏิกิริยาการหดตัว แห้งตัว ยุบตัวของ เศษอาหาร จึงทำให้เนื้อพระยุบตัวลง ระยะเวลาและความร้อนของอากาศหลายๆปี ฤดูกาลธรรมชาติตรงที่เป็นแอ่งดำซูมดูมองเห็นสีชมพูล้อมรอบปากหลุมสวยมาก
11. พระองค์นี้ เนื้อจะดูเก่าแต่หนึบไม่แตกร้าวมาก คงเป็นเพราะตัวประสานน้ำมันตั้งอิ้วๆผสมได้พอเหมาะ ที่ตรงด้นข้างที่มีรอยตัดขรุขระจะเห็นน้ำมันตั้งอิ้ว แห้งๆ ออกน้ำตาลแก่
12. คราบสีขาวบนองค์พระ พบที่ด้านหน้าองค์พระตรงบริเวณฐาน ในวงแขน และตามซุ้มด้านในพระ ด้านนอกพระและตามส่วนต่างๆ ที่ด้านหน้าองค์พระ
14. รอยปริแยกแตกบนผิวพระสมเด็จวัดระฆัง พบแต่ไม่เยอะ ที่เห็นชัดเพียงสองจุดที่ด้านหน้าตรงฐาน และมุมซุ้มขวา และรอยร้าวส่วนตรงขอบน่าจะเกิดจากการตัดขอบมากกว่า ไม่ใช่รอยร้าว
สรุป
พระสมเด็จองค์นี้ไม่ใช่แค่พระเครื่อง แต่เป็นศิลปะที่สวยงามอย่างลงตัวที่สุด เป็นศิลปะที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นความสวยงามอย่างวิจิตรได้ เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการอย่างใหญ่หลวงของผู้ได้ครอบครอง และถ้าหากมวลสารที่พบเหล่านั้นซึ่งได้แก่ ก้อนกลมออกสีดำประกายม่วง ก้อนกลมสีเขียวประกายสดใส ก้อนกลมสีขาวใสขุ่น เป็นพระบรม-สารีริกธาตุวรรณะต่างๆ และก้อนกลมสีขาวขุ่น เป็นพระอรหันธาตุ พระสมเด็จฯ องค์นี้ก็จะเป็นสิ่งที่วิเศษสุดจนประเมินค่าไม่ได้เลย เงินสิบล้านยี่สิบล้านไหนเลยจะมีค่าเพียงแค่ความรู้สึกอันน้อยนิดของความภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองของวิเศษนี้ไว้ติดตัวตราบจนชั่วลูกชั่วหลาน ติดแต่ปัจจุบันผู้ครอบครองยากจนค้นแค้นหนี้สินรุงรัง ลำบากใจเหลือเกินในการจะตัดสินใจปล่อยให้คนอื่นเช่าบูชาพระเครื่องที่วิเศษสุดนี้ไป เพราะถ้าแลกกับเงินหลายล้านฐานะครอบครัวความเป็นอยู่คงสุขสบายขึ้น แต่อีกใจกว่าจะมีวาสนาได้พบพานเกิดอีกชาติไม่รู้จะมีโอกาสได้เห็นอีกหรือไม่ คงแล้วแต่ชะตาชีวิต.... หรือผู้มีวาสนาคนต่อไป....
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)